บ่อยครั้งที่สำนักงานเราพบปัญหาคือ หลายคนเดินทางเข้ามาที่ประเทศเยอรมนีกับวีซ่าที่จำกัดระยะเวลา (เช่นวีซ่าท่องเที่ยว หรือ  วีซ่าเพื่อการติดต่อธุรกิจ) และต้องการพำนักอยู่ต่อเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากว่าเขาคนนั้นอาจมีครอบครัวและอาจต้องการที่จะแต่งงาน เป็นต้น

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ากฎหมายในประเทศเยอรมนีนั้นไม่เห็นด้วยที่จะอนุญาตให้มีการพำนักอยู่ในระยะยาวนานขึ้น เมื่อคุณได้เดินทางเข้ามากับวีซ่าที่มีการจำกัดระยะเวลาไว้แล้ว  เนื่องจากว่าเงื่อนไขที่ให้เดินทางเข้ามานั้นอนุญาตให้เฉพาะกับบางวีซ่าเท่านั้น  นั่นคือ วีซ่าติดตามครอบครัว หรือติดตามไปอยู่กับคู่สมรส รวมถึงวีซ่าเพื่อจดทะเบียนสมรส

เนื่องจากว่าการอนุญาตให้ออกวีซ่าให้พำนักระยะยาวได้นั้น จะต้องมีการตรวจสอบเงื่อนไขก่อนการเดินทางเข้าเสมอ   นั่นหมายความว่าหากคุณเข้ามาผิดวีซ่า คุณจะต้องเดินทางกลับไปประเทศของตนก่อน และค่อยดำเนินเรื่องขอสิทธิพำนักใหม่ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตามกฎเกณฑ์การขอวีซ่าประเภทนั้นๆกำหนดไว้

แต่ก็อย่างไรก็ตามแต่ มีการกำหนดข้อจำกัดที่ค่อนข้างเข้มงวด โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

ข้อยกเว้นคือ

ข้อแรกนั้นคือกรณีที่หลังจากการเดินทางเข้ามากับวีซ่าท่องเที่ยวที่ยังมีอายุใช้งานได้อยู่แล้วนั้น มีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ยกตัวอย่างในข้อนี้ที่สำคัญ เช่น การมีลูกหลังจากที่ได้เดินทางเข้ามาแล้วที่ประเทศเยอรมนี  หากพ่อของลูกนั้นเป็นบุคคลที่มีสัญชาติเยอรมัน หรือมีสิทธิพำนักถาวรที่ประเทศเยอรมนีแล้ว  ถือว่าลูกที่เกิดในประเทศเยอรมนีนั้นได้รับสัญชาติเยอรมันด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้เป็นแม่นั้นก็สามารถที่จะพำนักอยู่ในประเทศเยอรมนีต่อได้ด้วย โดยที่ไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศ

ข้อยกเว้นที่สองคือมีผลกระทบต่อบุคคลภายในครอบครัวหากญาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาเที่ยวที่ประเทศเยอรมนีนั้นจะต้องออกเดินทางก่อนเพื่อจะไปขอวีซ่าที่ถูกต้องตามเข้ามาใหม่ เพราะนั่นจะทำให้การเกิดแยกอยู่ของสมาชิกในครอบครัวเป็นระยะเวลานานได้  ในกรณีทั่วไปที่พบเห็นได้บ่อยก็คือ หลังการเดินทางเข้าประเทศของบุคคลที่เข้ามากับ “วีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์” นั้น ได้เกิดมีเหตุการณ์ที่สมาชิกในครอบครัวมีอาการเจ็บป่วยรุนแรง และมีความจำเป็นที่ต้องการความดูแลช่วยเหลือในระยะยาวจากคู่ครองที่กำลังเดินทางเข้ามา เป็นต้น

โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอนั่นคือ การแสดงเหตุผลเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมาจากการที่ต้องแยกกันอยู่นั้นอาจจะทำให้ขั้นตอนนั้นค่อนข้างที่ยาก บ่อยครั้งที่ทางกรมตำรวจต่างด้าวจะปฎิเสธการออกสิทธิพำนักอยู่ระยะยาวเนื่องจากการที่เข้ามาผิดวีซ่า และเรานั้นจะต้องทำการฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมคัดค้านการปฎิเสธนั้นอีกที ในกระบวนการนี้อาจใช้ระยะนานถึงปีครึ่งได้ ซึ่งในช่วงระยะเวลานี้คนที่ต้องการยื่นเรื่องนั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้ และไม่ได้ข้อได้เปรียบอื่นใดจากสิทธิพำนักที่ตามถูกต้องกฎหมายด้วย

แน่นอนว่านั่นอาจทำให้ทั้งคุณและครอบครัวแบกภาระที่หนักหน่วงในการดำเนินเรื่องดังกล่าว ด้วยเหตุนี้คุณควรจะมีการวางแผนและพิจารณาในสถานการณ์แบบนี้ก่อนเสมอ ว่าจะเป็นการง่ายและประหยัดเวลากว่าหรือไม่ หากคนๆนั้นเดินทางออกนอกประเทศไปก่อน เพื่อไปยื่นขอวีซ่าที่ถูกต้อง และให้ถูกกับวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้า หากคุณมีคำถามหรือต้องการความช่วยเหลือในการตัดสินดำเนินเรื่องเหล่านี้ทางสำนักงานเรายินดีให้คำปรึกษาคุณ